Full Version ธรรมะอันทำให้งาม มี ๒ ประการ

ธรรมะ โดย ป.เจริญธรรม > Article

ธรรมะอันทำให้งาม มี ๒ ประการ Date : 2012-12-02 18:35:53

ธรรมะอันทำให้งาม มี  ๒  ประการ 

 

            ๑.ขันติ คือ ความอดทน

            ๒.โสรัจจะ คือ ความสงบเสงี่ยม

            ๑.ขันติ คือ ความอดทน หมายถึงอดทนต่อความยากลำบากทั้งกาย และใจ เช่นมีการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็ไม่แสดงอาการทุรนทุราย อดทนต่ออากาศที่หนาว อากาศที่ร้อน อดทนต่อความเหนื่อยยากลำบากในการทำงาน  อดทนต่อความอดอยากยากจน  เพราะขาดปัจจัย ๔ ขาดอาหาร ขาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ขาดที่อยู่อาศัย ขาดยารักษาโรค เป็นต้น นี่คืออดทนทางกาย

            อดทนต่อคำพูดของผู้อื่นที่ดูถูกเหยียดหยาม  ประณามให้เสื่อมเสียชื่อเสียง  อดทนต่อคำพูดที่ไม่สุภาพ  คำพูดที่ส่อเสียดให้เจ็บช้ำน้ำใจ  อดทนต่อสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม อดทนต่อการถูกกดดันจิตใจในการทำงาน  ก็ไม่แสดงอาการโกรธ ไม่โต้ตอบแต่ประการใด เพราะมีความอดทนสูง มีสติปัญญารู้ว่า ถ้าแสดงความโกรธออกไป จะเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น  เป็นการสร้างศัตรู   จะเดือดร้อนกันทั้งสองฝ่าย  นี่คือความอดทนทางใจ

            ๒. โสรัจจะ คือความสงบเสงี่ยม  หมายถึงการสำรวมทางกาย วาจา ใจ เมื่อเกิดความลำบากตรากตรำทางกาย  ด้วยการทำงานหนักก็ไม่แสดงกิริยาวาจาที่น่ารังเกียจออกมาให้ผู้อื่นเห็น ไม่โวยวายหรือหลีกเลี่ยงงาน   มีความอดทนต่อสู้กับงานนั้นจนสำเร็จ  หรือถูกติฉินนินทาเหยียดหยามประณาม และส่อเสียดจากผู้อื่นให้เสียชื่อเสียง ก็ไม่แสดงกิริยาวาจาที่น่ารังเกียจ  เพราะมีคุณธรรมในข้อนี้ คือความสงบเสงี่ยม

            บางครั้งไม่มีเงินทองที่จะจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน ก็ไม่คิดที่จะไปขโมย จี้ปล้นใคร เพราะกลัวว่าผู้อื่นจะเดือดร้อนจากการทำความชั่วของตนเอง  จะกลายเป็นคนเลวเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม  ถึงจะไม่มีทรัพย์สมบัติมากเหมือนผู้อื่นก็มีความอดทน  มีความสงบเสงี่ยมแม้จะเป็นผู้ยากไร้ก็ดูงาม  เพราะมีคุณธรรมทั้ง ๒ ประการนี้ประจำใจ ซึ่งต่างกับผู้ที่มีฐานะดี แต่ขาดความอดทน  ขาดความสงบเสงี่ยม ทุจริตคดโกง จี้ปล้น สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเอง และผู้อื่น เพราะขาดความอดทนต่อความโลภ ขาดความสงบเสงี่ยมจึงทำชั่วได้ทุกอย่าง  ผู้นั้นจึงเป็นผู้ที่ขาดความงามทั้งกาย วาจา  ใจ

            ผู้ที่ขาด ขันติ โสรัจจะ คือ ไม่มีความอดทน ไม่มีความสงบเสงี่ยม ทางกาย วาจา ใจ เมื่อได้รับความลำบากทางกาย  ก็จะเกิดอารมณ์หงุดหงิด และแสดงกิริยา วาจา ไม่สุภาพ เช่น “เหนื่อยจังโว้ย” “เบื่อ” “เซ็ง” โวยวายไปตามประสาของคนขาดคุณธรรม ขาดขันติโสรัจจะ โวยวายแล้วหลีกเลี่ยงไม่ทำกิจกรรมงานนั้น ๆ หนักก็ไม่เอา เบาก็ไม่สู้ ชีวิตอยู่อย่างไร้ค่า และเป็นปัญหาสังคมต่อไป  เป็นคนที่น่ารังเกียจไม่ควรคบค้าสมาคม  เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ชนรุ่นหลัง จะทำกิจการงานใด ๆ ก็ไม่สำเร็จ เพราะขาดความอดทน ขาดความสงบเสงี่ยม จะปฏิบัติธรรมก็ไม่มีความเจริญก้าวหน้า โอกาสที่จิตจะหมดจากกิเลสเข้าสู้แดนวิมุตหลุดพ้นนั้นคงยาก

            พระภิกษุ สามเณรรูปใด ที่มีขันติ โสรัจจะ ก็จะมีความอดทน ความสงบเสงี่ยม เช่น  อดทนต่อความยากลำบากกาย  ที่ต้องเดินบิณฑบาตเป็นระยะทางไกล   อดทนต่อความหิว  เพราะฉันภัตตาหารได้เพียงวันละ ๒ เวลา คือจากเช้าถึงเที่ยงเท่านั้น  อดทนต่อการฉันภัตตาหารที่ไม่ถูกปากถูกใจ  อดทนต่อเครื่องนุ่งห่ม คือจีวรที่มีสีเดียวแบบเดียว ไม่มีหลายแบบหลายสีเหมือนฆราวาส อดทนต่อการที่ไม่ได้เที่ยวเตร่ตามที่เคยปฏิบัติ อดทนต่อการนั่ง นอน ยืน เดิน จะต้องมีโสรัจจะ คอยควบคุมกาย วาจา ให้สงบเสงี่ยม  ต้องปฏิบัติตามศีลแต่ละข้อ  เพื่อให้สำรวมในกิริยา วาจา อดทนต่อการฝึกสมาธิกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา เดินจงกรม  เพื่อชำระกิเลส  ต้องอดทนต่อความลำบากทางใจ  ที่จะต้องต่อสู้กับกิเลสที่ครอบงำจิตใจ บางครั้งกิเลสเกิดขึ้นมีสติปัญญาน้อย ก็พ่ายแพ้ต่อกิเลส เช่น เมื่อมีความโลภ  ความโกรธ ความหลง เกิดขึ้น ก็ทำตามกิเลสสั่ง กิเลสสั่งให้หลงรักใคร่พอใจ หรือโลภอยากได้ของผู้อื่น หรือกิเลสสั่งให้โกรธ อาฆาตพยาบาทปองร้ายผู้อื่นก็ทำตาม  บางครั้งเมื่อมีสติปัญญามาก  ขณะที่ความโลภ ความโกรธ ความหลงเกิดขึ้น  ก็สามารถระงับยับยั้งไม่ให้ทำตามกิเลสเหล่านั้นได้  ถ้าหากพระภิกษุ สามเณรรูปใด อดทนประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า  จนสามารถชำระกิเลสให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ  เข้าสู่แดนวิมุตหลุดพ้น ก็จะเป็นพระอริยะในที่สุด

            ดังจะเห็นได้ว่า พระภิกษุ สามเณรรูปใดที่ขาด ขันติ โสรัจจะ ก็จะแสดงกิริยา วาจาไม่สุภาพเรียบร้อย ขาดศีล ขาดธรรม อยู่ใต้อำนาจของกิเลส เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คำนึงถึงเพศบรรพชิตของตน  ปฏิบัติตนเหมือนฆราวาสทั่วไป  ลุ่มหลงมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แสวงหาทรัพย์สินเงินทอง  ให้ได้มาโดยไม่คำนึงว่า จะผิดศีลผิดธรรม ผิดกฎหมาย ผิดครรลองคลองธรรม ผิดจารีตประเพณี  ทำความเสื่อมเสียให้กับตนเอง และพุทธศาสนา  เป็นเหตุให้พุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา ในพระภิกษุ สามเณรเหล่านั้น  ถือว่าเป็นการบวชเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา  มิใช่บวชเพื่อชำระกิเลสตามเจตนารมณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

           ธรรมะอันทำให้งามนี้มีประโยชน์มาก ผู้ใดมีคุณธรรมทั้ง ๒ ประการนี้แล้ว  คือมีความอดทนและมีความสงบเสงี่ยม  จงรักษาสร้างเสริมให้มีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป ท่านจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่งามทั้งกาย วาจา ใจ แต่ถ้าผู้ใดยังไม่มีก็ยังไม่สายที่จะสร้างคุณธรรมทั้ง ๒ ประการนี้  ให้เกิดกับตนเอง เมื่อท่านมีความอดทนและมีความสงบเสงี่ยมแล้ว   ท่านเองจะเป็นผู้รู้ก่อนผู้อื่นว่า  ท่านเป็นผู้ที่งามทั้งกาย  วาจา ใจ


ความคิดเห็น